Rim of the World (2019) ผ่าพิภพสุดขอบโลก

เรื่องย่อ Rim of the World (2019) ผ่าพิภพสุดขอบโลก

Rim of the World เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟ-ผจญภัยที่ออกฉายในปี 2019 กำกับโดย McG และเผยแพร่ผ่าน Netflix โดยเนื้อเรื่องเล่าถึงกลุ่มเด็กวัยรุ่น 4 คน ได้แก่ อเล็กซ์ (แจ็ค กอร์), เซินเซิน (เบนจามิน ฟลอเรส จูเนียร์), กาเบรียลา (มีอา เชค) และ ดาริอุส (อเลสซิโอ สกัลโซ) ที่พบกันที่ค่ายฤดูร้อนในป่าลึกชื่อ “Rim of the World”

อย่างไรก็ตาม การผจญภัยกลับไม่เป็นไปตามแผน เมื่อ จู่ ๆ มนุษย์ต่างดาวบุกโลกและทำลายล้างเมืองใหญ่ เหล่า เด็ก ๆ ต้องเผชิญกับความโกลาหลและได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญ—พวกเขาต้องนำแฟลชไดรฟ์ที่เก็บข้อมูลสำคัญไปส่งยังศูนย์บัญชาการของ NASA เพื่อกอบกู้โลกให้ทันเวลา

ท่ามกลางอันตรายที่รออยู่ ทุกคนต้องฝ่าฟันศัตรูสุดโหดที่มีพลังเหนือมนุษย์และเรียนรู้ที่จะร่วมมือกันเพื่อเอาชีวิตรอด ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่พวกเขาต้องเติบโตขึ้นจากเด็กธรรมดากลายเป็นวีรบุรุษตัวจริง

รีวิวหนัง Rim of the World (2019) ผ่าพิภพสุดขอบโลก

จุดเด่นของหนัง

1. เนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยการผจญภัยและความตื่นเต้น
   Rim of the World วางโครงเรื่องในลักษณะคล้ายกับ Stranger Things และ The Goonies โดยให้กลุ่มเด็กเป็นศูนย์กลางของเรื่อง การผสมผสานระหว่างไซไฟ, ผจญภัย และมิตรภาพช่วยทำให้หนังมีเสน่ห์และดึงดูดผู้ชมที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวเอาชีวิตรอด

2. งานโปรดักชันที่สมจริง
   แม้ว่าภาพยนตร์จะเป็นโปรเจกต์ของ Netflix แต่คุณภาพของ CGI และการออกแบบมนุษย์ต่างดาวก็ทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ฉากแอ็กชันและฉากไล่ล่าระหว่าง เด็ก ๆ กับเอเลี่ยนเต็มไปด้วยความลุ้นระทึก

3. การพัฒนาตัวละครที่น่าสนใจ
   แต่ละตัวละครมีเรื่องราวและปมของตัวเอง อเล็กซ์เป็นเด็กขี้อายที่ต้องเรียนรู้การเป็นผู้นำ ดาริอุสเป็นคนทะเยอทะยานแต่ต้องต่อสู้กับความกลัว กาเบรียลาเป็นเด็กสาวที่ต้องก้าวข้ามอดีตอันเจ็บปวด ส่วนเซินเซินเป็นตัวละครที่นำมาซึ่งอารมณ์ขัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกพัฒนาไป พร้อม ๆ กับการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด

จุดเด่นของหนัง

1. เนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยการผจญภัยและความตื่นเต้น
   Rim of the World วางโครงเรื่องในลักษณะคล้ายกับ Stranger Things และ The Goonies โดยให้กลุ่มเด็กเป็นศูนย์กลางของเรื่อง การผสมผสานระหว่างไซไฟ, ผจญภัย และมิตรภาพช่วยทำให้หนังมีเสน่ห์และดึงดูดผู้ชมที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวเอาชีวิตรอด

2. งานโปรดักชันที่สมจริง
   แม้ว่าภาพยนตร์จะเป็นโปรเจกต์ของ Netflix แต่คุณภาพของ CGI และการออกแบบมนุษย์ต่างดาวก็ทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ฉากแอ็กชันและฉากไล่ล่าระหว่าง เด็ก ๆ กับเอเลี่ยนเต็มไปด้วยความลุ้นระทึก

3. การพัฒนาตัวละครที่น่าสนใจ
   แต่ละตัวละครมีเรื่องราวและปมของตัวเอง อเล็กซ์เป็นเด็กขี้อายที่ต้องเรียนรู้การเป็นผู้นำ ดาริอุสเป็นคนทะเยอทะยานแต่ต้องต่อสู้กับความกลัว กาเบรียลาเป็นเด็กสาวที่ต้องก้าวข้ามอดีตอันเจ็บปวด ส่วนเซินเซินเป็นตัวละครที่นำมาซึ่งอารมณ์ขัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกพัฒนาไป พร้อม ๆ กับการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด

บทสรุป

แม้ว่า Rim of the World จะไม่ได้เป็นหนังไซไฟที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแง่ของความสนุกและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร เหมาะสำหรับคนที่มองหาภาพยนตร์แนวเอาชีวิตรอดแบบเบาสมอง ดูได้ เพลิน ๆ กับเพื่อนหรือครอบครัว

หากคุณชอบหนังไซไฟแนวเด็กผจญภัย Rim of the World อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณมองหาความเข้มข้นหรือความแปลกใหม่ หนังเรื่องนี้อาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร